Home » Event Coverage » First time in Osaka, Japan with aounphoto

First time in Osaka, Japan with aounphoto

posted in: Event Coverage | 0

First time in Osaka, Japan with aounphoto

ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนเลยว่าผมเป็นคนรักการเดินทางมากๆ เคยมีความฝันในวัยเด็กว่าชีวิตนี้ต้องออกไปท่องโลกให้ได้  ผมเองก็ยังรักการถ่ายภาพมากๆ และยังรักการแต่งรถเป็นชีวิตจิตใจ และญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่ผมใฝ่ฝันว่าสักครั้งนึงต้องไป เหตุผลเหล่านี้จึงทำให้เกิดการเดินทางในครึ้งนี้ขึ้นมา กับการเดินทางสู่เมือง Osaka, Japan

กับการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรกของตัวผมเอง ครั้งนี้ผมเดินทางไปพร้อมกับทีมงาน XO Autosport, XOD ทางทีมงานให้เกียรติให้ผมได้ติดตามการเดินทางครั้งนี้ด้วย สำหรับญี่ปุ่นเป็นประเทศที่หลายคนใฝ่ฝันว่าสักครั้งในชีวิตต้องไปให้ได้ และถ้าใครได้ไปแล้วก็อยากไปอีก ด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติที่สวยงาม บ้านเมืองที่เป็นระเบียบเรียบร้อย วัฒนธรรมที่เด่นชัด และอากาศดีตลอดทั้งปี ยิ่งในช่วงฤดูหนาว ถ้าโชคดีอาจได้สัมผัสกับหิมะด้วย ที่พลาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งรถ ยิ่งเป็นรถซิ่งจากญี่ปุ่น ก็ยิ่งทำให้อยากไป อยากไปเห็น การแต่งรถที่นั่น แฟชั่นการแต่งตัว ของผู้คนที่นั่น ยิ่งตัวผมเองทั้งชอบเดินทาง และชอบรถญี่ปุ่น เลยไม่ลังเลที่จะตัดสินใจไปในครั้งนี้ ครั้งนี้เราไปที่เมือง Osaka ที่นั่นขึ้นชื่อเรื่องวงการรถซิ่งที่คนไทยตามเสพอยู่มากมาย รวมถึงอาหารการกิน แหล่งช็อปปิ้ง และยังมีโอกาสได้ไปเมือง Kyoto เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นด้วยซึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่อง อารยธรรม วัฒนธรรม ของกินเยอะแยะมากมาย ถือว่าครบเลยทีเดียว การเดินทางครั้งนี้ เราได้ไปหลากหลายสถานที่ มีสำนักแต่งรถชื่อดังของเมือง Osaka ด้วย เช่น Osaka JDM สำนักนี้คนไทยบ้าคลั่ง Honda ต้องรู้จักกันดีกับตำนานการซิ่งบนทางด่วนและการแต่งรถที่เป็นเอกลักษณ์ของเค้า และยังมีอีกหลายๆสำนักที่เราได้ไปเยือน รวมถึงงานโชว์รถ Osaka Auto Messe 2014 ที่1ปีมีครั้งเดียวด้วย สำหรับงาน Osaka Auto Messe 2014 นี้ ต้องรอติดตามกันในบทความต่อไปรวมถึงจะได้เห็นเหล่าสมาชิกทีมที่เดินทางไปด้วยกันว่ามีใครบ้าง แต่ในครั้งนี้เราจะพูดถึงเรื่องราวการเดินทางใน Osaka และการเยือนสำนักแต่งที่นี่กัน อย่ารอช้าเรามาชมภาพการเดินทางครั้งนี้ในกันเลยคับ
1

2ก้าวแรกที่ไปถึงดินแดนที่ใฝ่ฝันที่ครั้งนึงของชีวิตต้องไป ดินแดนที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่สวยงาม  ตำนานรถซิ่ง ต้นแบบวัฒนธรรมการแต่งรถที่คนไทยได้ดูเป็นตัวอย่าง  อากาศที่ดีตลอดปี ยิ่งในช่วงฤดูหนาวก็หนาวมาก ในช่วงนี้ที่ผมไปอาจจะเจอหิมะตกด้วย ผมนั่งเครื่องมาเป็นระยะเวลา 5 ชั่วโมง ก็ลงมาถึงสนามบิน KANSAI  มองไปข้างนอกหน้าต่างที่เห็นนั่นคือ เมือง Osaka นั่นเอง เมืองที่เรากำลังจะไปลุยในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว
3C1 Loop  ก่อนจะได้เข้าไปเที่ยวชมสำนักต่างๆของเมือง Osaka ค่ำคืนนี้ออกมาเดินเที่ยวในเมืองขากลับนึกขึ้นได้อยากขึ้นทางด้วน เลยขอนั่ง Taxi กลับโรงแรม ทางที่ผ่านบังเอิญผ่านทางด่วนช่วง C1 Loop ด้วย ชื่อนี้คือตำนานการแข่งขันบนทางด่วนในสมัยก่อน ขอมาอินกับบรรยากาศบนนี้ก่อนแล้วกัน อากาศหนาวๆ ถนนสวยๆ นึกในใจถ้ามีโอกาสอยากนั่งรถซิ่งบนนี้บ้าง หรือถ่ายรถซิ่งบนนี้ นั่งเพลินๆผ่านไป 20 นาทีก็ถึงโรงแรม บอกได้เลย ครั้งนี้ครั้งเดียวจะไม่นั่ง Taxi อีกแล้ว สรุปโดนไป 5800 เยน ลองไปคิดเอาเองน่ะคับว่าเป็นเงินไทยเท่าไหร่ นั่งระยะทางสัก 20 กิโลได้ สบายไปค่ำคืนนี้ แต่ก็คุ้มคับได้เห็นบรรยากาศทางด่วนตอนกลางคืน
4 ขอเล่าประวัติประกอบภาพนี้เลยแล้วกัน ถ้าพูดถึงชื่อเมือง Osaka ในยุคปี 1990-2000 คงไม่มีใครไม่รู้จักกลุ่มรถกลุ่มนี้ที่ดังสุดๆในยุคนั้นและยังมีอีกหลายกลุ่มที่ดังสุดๆในยุคนั้นอีกเช่นกัน ซึ่งในที่สุดก็ได้เจอกับตัวเป็นๆ Honda Civic EA มาจากสังกัด Temple Racing ในยุคนั้นรถรุ่นนี้นี้ก็จะใช้เครื่อง ZC ที่ติดรถมา แต่คันนี้ใช้เป็นเครื่อง Block B  คันนี้หางหลังสะดุดตาเรียกว่า Wonder Civic  คุณ ฟุรุคาวะ เป็นเจ้าของอู่ เป็นผู้ทำ แต่ออกแบบโดย  คุณ เคอิ มิวระ เจ้าของอู่ TRA kyoto  อู่ Osaka JDM เรียกอีกชื่อว่า (car craft boon)  ส่วนล้อ w works ทำขึ้นมาใหม่ส่งให้เฉพาะที่ Osaka JDM เพราะได้ทำโปรเจคร่วมกันอยู่ แต่ไม่มั่นใจว่าคันนี้เป็นรถที่วิ่งในยุคนั้นหรือป่าว หรือทำขึ้นมาใหม่  คันนี้เป็นของคุณฟุรุคาวะ ที่ใช้ลงแข่งใน Circuit และ ไว้ขับเล่นในปัจจุบันด้วย คุณ ฟุรุคาวะ ก็คือหนึ่งในตำนานในยุคนั้น แต่ถ้าพูดอีกตำนานคือทีม Late Riser มี คุณ เคอิ มิวระ เจ้าของอู่ TRA kyoto (ผู้ทำ Rocket Bunny) การทำรถของเค้าในยุคนั้นคือต้องทำให้เบา ให้เตี้ย ให้สวย แล้วยังวิ่ง Circuit ได้ด้วย ซึ่งกลุ่มนี้ที่วิ่ง เค้าจะวิ่งกัน บนทางด่วนใน Osaka วิ่งวนกันเป็น Loop ที่เค้าวิ่งกันคือ C1 Loop มันจะวนได้ หรือที่วิ่งกันดังๆในยุคนั้นวิ่งกันดุเดือนคือกลุ่ม Kanjo ซึ่ง Temple Racing ก็เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Kanjo เช่นกันนี้ถ้าเป็นพวก EG เค้าจะใช้เครื่อง B16A-B18C แล้วก็ใส่ยางสลิกวิ่งกัน ในยุคนั้นมีหลายทีม น่าจะเป็นเพื่อนกันหมด temple racing, wharp, law break, nogood racing แต่พวกนี้เค้าจะอยู่ในสั่งกัด temple racing กันเป็นส่วนใหญ่ เหมือนเป็นทีมใหญ่ นี่คับดีใจที่ได้เจอรถระดับตำนาน ได้ถ่ายที่โอซาก้า เป็นอะไรที่สุดมากๆจริงๆ

5มาถึงแล้วต้องมีภาพคู่กับเจ้าของสำนัก Mr.Kazuhiro Furukawa เจ้าสำนัก Osaka JDM กันหน่อย

6ที่สำนัก Osaka JDM ที่นี่มีจุดเด่นในการปรับแต่งรถ ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองมากๆ โดยมีการพัฒนาช่วงล่างเอง จนมีของแต่งเป็นของสำนักตัวเองหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ปีกนกซิ่ง ตัวปรับแคมเบอร์  โช๊ค และยังมีล้อ w works ที่จะเห็นว่าเป็นลายที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น เพราะทาง Osaka JDM กับ w works ได้ทำโปรเจคร่วมกัน เลยเกิดเป็นล้อลายนี้ขึ้นมา และที่นี่ก็ยังมีของแต่ง ของหายาก สำหรับคนที่เล่น Honda อีกมากมายอีกด้วย

7ภาพบรรยากาศภายในสำนัก Osaka JDM กับรถที่รอทำงาน Modify อีกหลายคันเลย บอกเลยว่าของแต่ง Honda หายากๆมีเยอะเลย
8ภาพหน้าสำนัก Osaka JDM  ซิ่งจริงๆมีชื่อเดิมว่า car craft boon
9ภาพห้องเครื่องที่ไม่พลาดที่จะถ่ายกลับมาฝากให้ชมกัน
10 ผ่านไปแล้วกับสำนักดัง Osaka JDM สำนักแต่ง Honda ที่คนไทยรู้จักกันดี  ผมชักเริ่มหลงรักญี่ปุ่นแล้วหละสิ มาได้ไม่นานก็ชอบไปหมด มองไปทางไหนก็สวย สะอาด เรียบร้อย ผู้คนก็นิสัยดี บ้านเมืองก็มีระเบียบมาก ผู้คนที่นี่มีวินัยในการใช้ชีวิตมากๆ อาหารก็อร่อย โอ้ยนึกแล้วก็อยากกลับไปอีก

11การเดินทางในญี่ปุ่นของผม หลักๆคือ เดิน นั่งรถไฟ แล้วก็เดิน แล้วก็นั่งรถไฟ   ระบบคมนาคมที่ญี่ปุ่นเนี่ยดีมากๆครอบคลุมมากๆ นั่งรถไฟก็มีหลายแบบ รถไฟชั้นประหยัดสุดก็เป็นรถไฟธรรมดา แต่ที่นี่เป็นรถไฟฟ้าหมดแล้ว ถึงจะเป็นรถไฟธรรมดา แต่มีความเร็วในการเดินทางที่เร็วเลยทีเดียว 100-120 km/h ต้องมีแน่นอน เร็วมากสะดวกมาก  แต่ละสถานีรถไฟที่นี่ก็เชื่อมต่อกันดีมาก ลงรถไฟธรรมดา ต่อรถไฟลอยฟ้า ลงรถไฟลอยฟ้าต่อรถไฟใต้ดิน บอกเลยว่าถ้านั่งเป็นน่ะเพลิน สบายมากๆ
12ในญี่ปุ่นเนี่ยเราหวังว่าจะได้เห็นรถซิ่งตามถนน แต่ในความเป็นจริงไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นน่ะ นอกจากเค้าจะนัดกันออกมา คนญี่ปุ่นที่ฐานะดีก็จะนิยมรถยุโรป พูดได้ว่าสำหรับคนรวยที่นี่ต้องขับรถยุโรป แล้วต้องพวงมาลัยซ้ายด้วยน่ะ
13อีกสำนักดังของ Osaka คือสำนัก Euro Magic เจ้าของแบรนด์ Voomeran ที่นี่เน้นแต่งรถ VW AUDI งานหลักๆของที่นี่จะเน้น Customize, Dress up, Tunning  เพื่อการใช้การ แต่งสวย รวมถึงการแข่งเซอร์กิจ ที่ทางเจ้าสำนักถนัดเพราะมีประสบการณ์แข่งขันมาหลายปี และยังโดดเด่นการปรับแต่งในรูปแบบ Flush Syle  ที่กำลังได้รับความนิยมมากๆในปัจจุบัน14เจ้าของสำนัก Mr. Hideo Hirooka   ออกมาขับ Golf MK2 คันที่โด่งดังในปัจจุบัน

15 16 1718ที่ญี่ปุ่น Taxi มีเยอะมาก ตอนแรกก็สงสัยทำถึงใช้รถรุ่นเก่าอย่าง Toyota Crown แต่พอได้ใช้บริการ เอ้ยมันก็โอเคน่ะ นั่งสบาย รถดูใหม่มาก  ถึงรถจะเก่าแต่โดยรวมก็ดูดีน่ะ แต่ค่าโดยสารนั้นแพงมาก

19 ถ้ามาที่โอซาก้า แล้วไม่มาที่นี่ คงจะโดนว่าๆมาไม่ถึงแน่ๆ สิ่งที่ขึ้นชื่อเมืองนี้คือขนม glico  ยังไงก็ต้องแวะมาถ่ายภาพที่นี่สักหน่อย 20 ยามค่ำคืนผู้คนที่นี่เยอะแยะมากมาย ออกมาเดินเล่น ช๊อบปิ้ง กินข้าว ผมเดินไปเดินมาก็เพลินดีน่ะ ได้ดูสาวๆไปด้วย 21ในยามดึก นั้นคือความเงียบสงบ ถ่ายจากโรงแรมคับ ทุกอย่างสงบมาก  ว่าแต่บ้านเมืองที่ญี่ปุ่นสะอาดมาก ฝุ่นแทบไม่มี ขยะแทบไม่เห็น ระเบียบวินัยที่เคร่งครัดทำให้เมืองนี้น่าอยู่จริงๆ

22MIGHTY DOG U.K. MOTORSPORT   เป็นสำนักแต่งที่ผมต้องเดินทางออกนอกเมืองโอซาก้า มายังเมืองเกียวโต ในเขตนากาโอกะ  ที่นี่เป็นสำนักแต่งรถสัญชาติอังกฤษ โดยมี Mr.Norimasa Hirobe เจ้าสำนัก ที่ได้คลุกคลีอยู่กับ MINI มานาน  โดยที่สำนัก MIGHTY DOG ดูแลรถยนต์อังกฤษโดยตรง โดยที่ถนัดก็จะเป็นรถญี่ห้อ MINI, LOTUS, CATERHAM, LAND ROVER  โดยที่นี่จะเน้นดูแล รถใช้งาน เซอร์วิส สั่งอะไหล่หายากๆ ไปถึงโมดิฟายรถแข่งด้วย
23 Mr.Norimasa Hirobe เจ้าสำนัก MIGHTY DOG

24 บรรยากาศในอู่ที่ดูจัดสรรค์อย่างเป็นระเบียบและน่ารัก25 รถหายากสัญชาติอังกฤษที่นี่มีเพียบ26หลังจากที่เราได้ไปกันมาหลายสำนัก อยากพูดถึงเรื่องราวในญี่ปุ่นนิดนึง สิ่งที่ผมสังเกตุได้บ่อยๆที่นี่คือ การประหยัดพลังงาน โดยการเดิน ปั่นจักรยานซึ่งนิยมมาก รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือถ้าใช้เครื่องยนต์จะนิยมใช้ K-Car 1000cc กัน ที่นี่จะนิยมการประหยัดพลังงานกันอย่างมาก ถ้ามาญี่ปุ่นก็จะเห็นผู้คนที่นี่ปั่นจักรยาน กับ เดิน กันเต็มเมืองเลย
27หลังจากเรากลับเข้ามาในเมือง นอกจาก การเดิน ปั่นจักรยาน หรือรถยนต์ประหยัดพลังงานคันเล็ก แต่สิ่งที่เราจะเจอที่คาดหวังว่าจะเป็นรถซิ่ง แต่แทบไม่เจอรถซิ่งตามท้องถนนเลย ถ้าในย่านธุรกิจส่วนมากจะเจอรถยนต์หรูหรา รถยุโรปแพงๆ
28สำนักแต่งรถยุโรปอีกเช่นกัน สำนัก Bond Technik Osaka  เป็นอีกสำนักแต่งที่เน้นการแต่ง สั่งของแต่ง รถยุโรป เน้นไปทางรถ Sportcar  Supercar 29LP700 คันนี้ น่าจะเคยเห็นผ่านสื่อดังๆเว็บดังแล้วมากมาย
30 31 เดินไปเดินมาก็สะดุดตากับที่จอดรถแบบนี้ ตอนแรกก็งงตั้งนาน ดูอยู่นานก็เข้าใจว่าไม่ต้องมีคนเก็บเงินที่จอดแบบบ้านเรา จ่ายผ่านตู้ใกล้ๆกับที่จอด เหล็กก็จะขึ้น ลง ให้เราเอง โอ่วกันขโมยไปในตัวเลยน่ะเนี่ย32นานๆจะได้เห็นรถซิ่งวิ่งไปมาในเมือง
33K-car ที่นี่นิยมกันมากๆ และยังนำมาแต่งได้หลากหลายแนวด้วย

34 แบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบน่ะ35 แนวการแต่งรถของ โอซาก้า ที่เห็นถ้าเปรียบเทียบกับบ้านเรา ก็เป็นแนว VIP  Flush เยอะน่ะ แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนคือความเป็นตัวของตัวเองในการแต่งรถ ไม่ยึดติดของของแต่ง มีสไตล์เป็นของตัวเอง แต่การแต่งเตี้ยๆล้อแบะๆที่นี่ก็นิยมกันมาก และถนนที่นี่ก็เหมาะอย่างยิ่ง ไม่มีตัวหนอนแบบบ้านเรา และเรียบมาก รถซิ่งสบายเลย36 บรรยากาศทางด่วนในเมือง โอซาก้า37 สำนักสุดท้ายที่ได้ไปในครั้งนี้ WALD สำนักแต่ง VIP ชื่อดังที่พวกเราเคยได้ยินติดหู และรู้จักกันดี ที่นี่รถบอกเลยสุดทุกคัน 38แต่งสุดทุกคันสำหรับสำนักนี้ 39หมดเรื่องรถแล้ว เรื่องราวการเดินทางของเราไม่ได้มีแค่รถยังมีอย่างอื่นอีก บอกเลยว่าผมเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่มา โอซาก้า แล้วเจอหิมะตกเยอะขนาดนี้ ปกติที่นี่ในหน้าหนาวจะมีหิมะตกก็นิดเดียว แต่ครั้งนี้ถือว่าโชคดีมาก คนญี่ปุ่นบอกว่าตกเยอะที่สุดในรอบ 20 ปีเลย ผมยิ่งตื่นเต้นเลย ชีวิตเพิ่งเคยเจอหิมะก็ที่ญี่ปุ่นนี่แหละ แถมมาในเมืองที่ไม่น่าจะตกเยอะ แต่ก็ได้เจอแบบสะใจเลย หนาว แต่บอกเลย สนุกมาก

40 บรรยากาศช่วงหิมะตกที่นี่ ชั่งโรแมนติกสุดๆ อยากจะหยิบกล้องมาหาคู่ถ่าย พีเวดดิ้ง จริงๆ คนอื่นๆอาจจะไม่สนุก แต่บอกเลยว่าผมสนุกมากกับหิมะ 41 นอกจากผมจะใช้ชีวิตกันที่ โอซาก้าแล้ว  ผมก็มีโอกาสมาที่ อดีตเมืองเหลืองเก่าของญี่ปุ่น คือ เมืองเกียวโต ที่นี่คับคั่งไปด้วยผู้คน ร้านอาหาร ของกินอร่อยมากมาย วัดเยอะมาก 42ได้แวะวัดน้ำใส ที่เรียกกันภาษาญี่ปุ่น Kiyomisu คนไทยถ้าได้มาเมืองนี้นิยมมาขอพรความเจริญรุ่งเรือง
43 ระหว่างเดินไปอีกวัด ได้เจอโมเม้นนึง ถึงกับต้องหยุดถ่ายภาพนี้ออกมา44 วัดนี้ผมชอบมากสวยมากคับ มีชื่อว่า Fujimiinari  ที่นี่มีเสาเป็นหมื่นต้น ยาว4กิโล ที่นี่มีความเชื่อถึงเรื่อง เทพเจ้าความอุดมสมบูรณ์45
46และแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องบอกลา ผมอยากบอกว่าถ้ามีโอกาสผมต้องมาที่นี่อีกแน่ๆ หลงรักเข้าเต็มๆคับ เหมือนได้เจออีกความสุขของชีวิต ที่มีครบเกือบทุกรถชาติชีวิตเลย ถึงจะเป็นครั้งแรกแต่บอกได้เลยว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ต้องเจอกันอีกแน่นอน
_MG_3319
สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณ  XO Autosport, XOD  กับการเดินทางในครั้งนี้ ถ้าไม่มีทีมงานนี้รับรองผมคงยังไม่มีโอกาสได้ไปแน่ๆ โปรดรอติดตามในบทความหน้ากับเรื่องราวของงาน Osaka auto messe 2014 ด้วยน่ะคับ

Story : Wattanapong Plymat (aounphoto)
Photographer
:  Wattanapong plymat (aounphoto)